วิธีทำบุญแก้กรรม ตอนที่ 1
วิธีทำบุญแก้กรรม ตอนที่ 1
พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ
ภพชาติมีจริง สิ่งมีจริงแต่เชื่อว่าไม่มี ถือเป็นมิจฉาทิฐิ จะบรรลุธรรมไม่ได้ การเชื่อถูกต้องถึงเป็นประโยชน์ แต่หลายคนเชื่อแบบงมงายขาดเหตุผล จนตกเป็นเหยื่อให้กลุ่มคนหลอกลวง ซึ่งอาจมาในคราบผู้ทรงศีล หมอดู-ร่างทรง "แก้กรรม" เป็นคำให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะกรรมแก้ไม่ได้ (แต่บรรเทา-เลื่อนส่งผลได้) ทำอะไรไว้จะส่งผลกลับให้เสมอ มาเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักกรรม จังหวะ-โอกาส เราเกิดมานับชาติไม่ถ้วน ความดีชั่วที่ทำไว้มากมาย รอสลับให้ผลเกินคาดเดาได้ คนไม่ยอมเชื่อเรื่องกรรม เพราะเห็นคนทำชั่วได้ดี แต่นั่นคือความจริงครึ่งเดียว ถ้าย้อนอดีตได้อาจพบว่า.. คนชั่วชาตินี้ เคยทำบุญใหญ่ชาติก่อนมากแค่ไหน เกิดใหม่จึงรวย มีอำนาจ มีโอกาส แต่บุญที่เคยทำ(ซึ่งมักเป็นด้านให้ทาน)ไม่ได้ประกันว่าจะเป็นคนดีเหมือนเคย จิตมนุษย์กลับกลอก คอยไหลลงต่ำ ผู้เป็นอริยะขั้นโสดาบันขึ้นไปเท่านั้น ที่มั่นคงไม่ผันแปร จึงไม่แปลกที่คนแสนดีในอดีต อาจกลายเป็นมหาโจรปล้นชาติได้ในวันนี้
ทำบุญด้วยจิตไม่บริสุทธิ์ ก็ได้ผลบุญไม่บริสุทธิ์ ทำหวังผลให้ตัวเอง ขอให้รวย ขอสารพัด ครั้นบุญให้ผลจนรวยและยิ่งใหญ่ได้ตามปรารถนา แต่ทำบุญด้วยความโลภ ก็ได้ความโลภตามมาด้วย เราจึงได้เห็นบางคนรวย แต่ขี้เหนียว เห็นแก่ตัว อยากได้ไม่สิ้นสุด ซึ่งคนรวยมีอำนาจมีโอกาสทำชั่วได้ผลกว้างกว่าคนจนหลายเท่า การทำบุญ(บางอย่าง)ชาติหนึ่ง อาจเพื่อกลับมามีโอกาสทำบาปใหญ่อีกชาติหนึ่ง ผลจากบาปส่งต่อไปนรกหรือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานต่ออีกหลายร้อยชาติ กว่าจะรอจังหวะมีพ่อแม่ที่เหมาะสม เพื่อเกิดเป็นคน ได้โอกาสแก้ตัวอีกครั้ง ประชากรโลกเพิ่มทุกปีก็จริง แต่วิญญาณต่างภพภูมิที่รอเกิดเป็นมนุษย์ ก็มีมากกว่าคนทั้งโลกจนประมาณไม่ได้เช่นกัน!!
มองให้ลึกจะเห็นการทำบุญไม่ถูกทาง ไม่ครบด้าน อาจส่งหายนะในชาติต่อไปได้อย่างน่ากลัว นี่คือเหตุผลว่าทำไมการรักษาศีล ให้อภัย จึงมีอานิสงส์กว่าบริจาคเงินเป็นล้าน การเจริญสติทำไมเป็นบุญสูงสุด ในแง่การ"ให้" ทำไมให้ธรรมะ(ที่ถูกต้อง)ถึงชนะการให้ทั้งปวง เพราะธรรมะสอนคนให้รู้จักอภัย ให้ทาน รักษาศีล เจริญสติ เป็นจุดเริ่มต้นในบุญทุกด้าน เมื่อให้ปัญญาที่ถูกต้องกับผู้อื่น จะได้ปัญญาที่ถูกต้องกลับมาเช่นกัน จิตสว่างมีปัญญาในธรรม เกิดใหม่ถ้ารวยก็รวยอย่างมีสุข รู้จักเผื่อแผ่ ช่วยเหลือ เข้าหาธรรมได้ง่าย ถ้าเกิดมาจน ก็จนอย่างรู้จักพอ อดทน ขยัน ขวนขวายพัฒนาตนจนก้าวพ้นความตกต่ำได้ง่าย เศรษฐีหลายคนเคยล้มหมดตัวหรือยากจน แต่เพราะ.."ปัญญาและใจเท่านั้น"จึงสามารถฟื้นพลิกชีวิตได้ วิทยาศาสตร์พิสูจน์ชัดว่า จิตเยือกเย็นผ่องใส มีสมาธิ มีผลต่อคลื่นสมองให้วิ่งช้าลงเป็นระเบียบ นำมาซึ่งความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง แก้ปัญหาได้ดีขึ้น แต่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ลึกพอว่า ที่ฉลาดจนแก้วิกฤตและเจอช่องทางรวยได้ ไม่ใช่แค่สมอง แต่เพราะบุญที่เคยทำถูกด้านส่งให้.."ใจสู้และคิดเป็น" รู้จักเลือกช่องทางให้ตนถูกต้อง
คนขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย และอะไรดึงให้ขยันผิดที่อยู่อย่างนั้น การศึกษาธรรมคล้ายเล่นหุ้น ถ้าข้อมูลดีกว่า ลงทุนน้อยแต่ทำถูกที่ จะได้กำไรมากกว่า ธรรมะไม่ได้สอนให้อยากรวย แต่เป็นความจริงว่า เมื่อปฏิบัติถูกต้องจะส่งให้รวยได้อย่างมีความสุข นำสู่การปล่อยวางได้ง่ายในบั้นปลาย ครูบาอาจารย์สอนว่า.."คนประสบสำเร็จในอาชีพ มีพร้อมในทางโลก เมื่อบวชจะเจริญได้ง่าย เพราะเต็มอิ่มและสิ้นสงสัยว่าสุขทางโลกแค่ของปลอม (พระพุทธองค์ ก็ทรงมีพร้อมทุกอย่างก่อนบวช) ความขยันอดทนต่อสู้ปัญหาในงาน จะติดนิสัยส่งถึงความเพียรในการปฏิบัติธรรมด้วย ธรรมะเบื้องต้นสำหรับฆราวาสคือ ขยันในงานที่สุจริต ทำชีวิตให้ดี ดูแลพ่อแม่ครอบครัว หมั่นสะสมคุณธรรมพื้นฐานในชีวิตประจำวันไปตามลำดับขั้น แต่เรามักเอาธรรมะระดับอรหันต์มาสอนคนเริ่มต้น จึงเข้าใจยากและทำตามไม่ได้ (อรหันต์ อ่านว่า อะระหัน)
กรรมแก้ไม่ได้ก็จริง แต่เจือจางหรือยืดเวลาส่งผลได้ กรรมชั่วเหมือนยาพิษ กรรมดีเหมือนน้ำเปล่า ยาพิษหนึ่งช้อนใส่น้ำเปล่าหนึ่งแก้ว กินแล้วอาจตายทันที แต่ยาพิษหนึ่งช้อนใส่ในสระน้ำ อาจไม่ส่งผลทั้งที่ยาพิษเท่าเดิม ความชั่วที่สะสมมาแต่ชาติก่อนถูกเจือจางได้ด้วยการทำดีแต่ต้องมีปริมาณมากกว่าอาจเป็นล้านเท่า แต่ไม่ใช่ว่าผลกรรมชั่วจะหายไป ยังรอให้ผลเมื่อบุญหมดหรือสบโอกาส อยากแก้กรรมต้องเริ่มที่หยุดทำบาปใหม่ทั้งปวง รักษาศีล(เฉพาะที่ทำได้ก่อนทีละข้อก็ได้) และทำความดีให้มากที่สุดเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ทำนิดหน่อยก็คิดว่าทำมากแล้ว และบุญแต่ละอย่างมีผลต่างกัน การทำบุญด้านเดียวแม้จะมากมาย ไม่ได้ประกันว่าเจือจางกรรมชั่วที่ทำไว้หลากหลายได้ บางคนประมาทว่าชีวิตนี้ไม่ได้ทำชั่ว ปล่อยชีวิตเสพสุขไปวันๆ ไม่ต่างกับตั้งน้ำเปล่าผสมพิษไว้ น้ำจะค่อยระเหยเหลือแต่สารพิษ
การที่เราอยู่ดีมีสุข มีข้าวกิน มีบ้านอยู่ ได้ที่นั่งดี ได้เห็นสิ่งสบายตา แม้แต่เล่นเกมชนะ ล้วนเป็นการใช้บุญให้หมดไปวันๆ เปิดทางให้กรรมชั่วที่เคยทำส่งผลเร็วขึ้น เชื่อไหมว่า..คนทั่วโลกจำนวนมากต้องเจอหายนะ ทุกข์สาหัสหลังถูกรางวัลที่หนึ่ง ดารานักร้องจำนวนไม่น้อยที่ดังเร็ว แต่ไม่นานก็ร่วงลงเหว ตกต่ำจนต้องขายตัว ติดยา ฆ่าตัวตาย ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต การได้ดีมีสุข ชนะอะไรก็ตาม คือการใช้บุญเก่าให้หมดไป "ยิ่งได้อะไรมากเท่าไร หมายถึงบุญของเราก็หมดไปมากเท่านั้น!!"
เปรียบชีวิตคือการขับรถไปเรื่อยๆ บุญเหมือนรถขนรางวัลขับตามจะให้เรา บาปเหมือนรถคนโกรธจัดขับตามล้างแค้นที่เราเคยทำร้ายเขาไว้ แต่ตามไม่ทันเพราะเรายังเร่งเครื่อง(ทำดี)ไปเรื่อย แถมมีรถรางวัลมาขวางไว้ให้อีกชั้น การทำความดีเหมือนเร่งเครื่องหนีห่างไกลขึ้น หากไม่สร้างความดีเพิ่มก็เหมือนหยุดเหยียบคันเร่ง ในที่สุดเขาจะตามทัน รถรางวัลอาจมาถึงก่อน มอบของเสร็จก็จากไป ทิ้งให้หยุดเพลินชื่นชมกับสมบัติที่ได้ บางคนมีรถรางวัลหลายคันทยอยมอบทีละน้อย แต่บางคนเหมาทั้งหมดทุกคันมาพร้อมกัน กลายเป็นรางวัลก้อนใหญ่ให้ตูมเดียวแล้วขับจากไป จึงไม่มีอะไรขวางไว้เหมือนก่อน เปิดทางรถคู่อาฆาตที่รอคิวเข้ามาล้างแค้นได้เต็มที่
หลายคนเที่ยวไหว้ขอเทวดาให้ช่วย แต่กลับไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ล้วนมาจากบุญเก่าของเราทั้งนั้น ท่านช่วยเหมารวมเป็นกองเดียวกันให้(หรือจากแรงปรารถนาทางจิตของเรา) เหมือนเบิกเงินใช้ทีเดียวหมดบัญชี จึงไม่เหลือเงินเติมน้ำมันเพื่อขับหนีคนที่ตามล่าอยู่อย่างเคียดแค้น จึงไม่แปลกที่คนโชคดีหลายคนจะเจอหายนะตามมาติดๆ ยิ่งโชคดีเท่าไร สิ่งขวางกั้นโชคร้าย(กรรมเก่า)ก็หมดไปเท่านั้น สำหรับคนที่กำลังเจอมรสุมร้ายแรง ควรดีใจเถอะว่า.. กำลังชดใช้หนี้บาปให้หมดเร็วๆ เจ็บแค่ไหนให้รู้ว่าครั้งหนึ่งเราทำคนอื่นให้รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน อดทนให้ผ่านไปด้วยจิตสำนึกบาป ไม่นานจะได้รับผลจากกรรมดีที่เคยทำไว้อย่างเต็มที่โดยไม่มีหนี้เก่ามากวนใจให้ทุกข์สาหัสอีก สิ่งสำคัญต้องเร่งทำบุญให้มากเป็นทุนป้องกันตัวเองไว้ก่อน ไม่ว่ากำลังโชคดีหรือโชคร้ายก็ตาม
พูดถึง"บุญ" คนส่วนใหญ่ก็นึกถึงแค่การบริจาคเงิน จึงทุ่มทุนซื้อบุญกันอย่างหน้ามืด ซึ่งแค่การวางจิต(หรือเจตนา)ต่างกัน แม้บริจาคเท่ากันก็ได้ผลต่างกันมหาศาล การให้ทานเป็นบุญระดับต้นเท่านั้น ทำบุญแต่ละด้านมีผลต่างกัน ถ้าเน้นทำบุญแก้กรรม ต้องเข้าใจและทำให้ตรงด้าน เหมือนต้องรู้ว่าสารแต่ละอย่างมีอะไรเป็นตัวเสริมหรือต้านฤทธิ์ของมัน สารพัดวิธีงมงายในหนังสือ ทีวี และแม้แต่ในวัด ที่หลอกคนให้เสียเงินแก้กรรม แก้ปีชง ฯลฯ บางคนไม่หลอกแต่เพราะเชื่อแบบนั้นจริงๆ คนทำสมาธิถึงจุดแล้วเห็นผีเห็นกรรมได้จริง แต่ที่เห็นอาจไม่ใช่ของจริงทั้งหมด ตราบใดไม่เจริญสติถูกทาง จิตไม่สะอาดจริง ยังเห็นจิตเป็นเรา ฯลฯ พลังสมาธิบวกจิตที่ยังมีกิเลส(โมหะ) จะสร้างภาพหลอกแนบเนียนจนเชื่อสนิท เคยมีข้อมูลเดิมฝังใจแต่เด็กหรือชาติก่อนอย่างไร จะปรุงแต่งภาพอีกมิติให้ต่างกันไป
ตัวอย่าง.. คนไทยตายแล้วฟื้น มักเห็นยมทูตนุ่งผ้าแดง แต่ฝรั่งเห็นยมทูตรูปร่างต่างไป ซึ่งอาจเห็นจริงหรือแค่มโนภาพก็ได้ ครูบาอาจารย์บอกว่าคนไทยตกนรกเจอต้นงิ้ว แต่ฝรั่งตกนรกไม่เห็นต้นงิ้ว แต่ทรมานเหมือนกัน แม้อยู่ในสถานที่จริงแต่ภาพที่เห็นอาจเป็นคนละเรื่อง เกิดจากจิตปรุงแต่งหรือจิตละเอียดต่างกัน เทวดาชั้นต่ำไม่สามารถมองเห็นเทวดาชั้นสูงกว่ายกเว้นท่านจะเปิดให้เห็นได้ มนุษย์ที่ฝึกสมาธิได้ขั้นสูงแต่ไม่ได้บรรลุอริยะ ตายไปเกิดเป็นพรหม ยังเกิดมิจฉาทิฐิ เข้าใจเรื่องโลกทิพย์ผิดจากความจริงทั้งที่เป็นเทพชั้นสูงสุด มีกล่าวในพระไตรปิฎกเป็นตัวอย่าง ดังนั้นจะหวังอะไรกับนักบวชหรือคนธรรมดาที่ศีลไม่ครบ พระไตรปิฎกไม่เคยอ่าน ความรู้ธรรมะที่ถูกต้องแทบไม่มี เมื่อเห็นไม่ชัดและรู้ไม่จริง จะอธิบายเหตุผลบอกทางแก้ที่ถูกต้องได้อย่างไร หลายคนอาจเห็นผีเห็นกรรมจริง ก็คล้ายชาวนาไปยืนดูหมอผ่าตัดคนไข้ แม้ได้เห็นของจริงต่อหน้า แต่ใช่ว่าจะเข้าใจหรือจดจำไปผ่ารักษาคนอื่นได้ การเห็นโลกวิญญาณของบางคน อาจเป็นแค่บางส่วนจาก 31 ภพภูมิเท่านั้น พอนำมาเล่าโดยขาดการศึกษาให้แตกฉาน ก็ไม่ต่างกับคนไปเที่ยวป่าแอฟริกาแค่ที่เดียว แต่กลับมายืนยันเสียงแข็งว่า.. คนต่างชาติทุกคนล้วนตัวดำ น่ากลัว ป่าเถื่อน!!
คนเห็นกรรมคนอื่นได้ชัดจริงและบอกทางแก้ได้ถูกต้องควรเป็นพระอริยะเท่านั้น ซึ่งท่านคงไม่เอามาหากินหรือโปรโมทกันจนเวอร์ คงไม่มาตั้งพิธีตัดกรรม ให้แก้กรรมด้วยการเสียเงินให้ท่าน ส่วนมากเน้นสอนปฏิบัติเพื่อรู้เห็นกรรมด้วยตนเอง เน้นสร้างกุศลพัฒนาตนเป็นหลัก ถ้าจะพูดเรื่องกรรมและวิธีแก้ของใคร ต้องจำเป็นจริงเท่านั้น และวิธีแก้จะมีอย่างเดียวคือ.. "การปฏิบัตธรรม ทำความดี" ไม่มีพิธีรีตอง ไม่ต้องตั้งเครื่องเซ่น ปรับฮวงจุ้ย เปลี่ยนชื่อ ไม่ต้องหาวัตถุมาแขวนแก้กรรม หรือเอาอะไรมาห้อยคอให้วุ่นวาย ใครจะดูกรรมได้ตรงหรือไม่ อาจไม่สำคัญเท่าบอกวิธีแก้ได้ถูกทางและถูกธรรมหรือไม่มากกว่า ฉบับหน้าจะบอกวิธีตรวจดวงแก้กรรมให้ตนเองแบบง่ายๆ พร้อมวีธีทำบุญใช้หนี้กรรมเฉพาะด้าน ที่ทำง่ายๆได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเสียค่าโง่ เสียเวลา หรือถูกหลอกให้เสียตัวอย่างในข่าว (ย้ำอีกทีที่ใช้คำว่า.. "แก้กรรม" เพื่อให้เข้าใจง่ายเท่านั้นนะครับ )
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น