ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทำบุญแก้กรรม ตอนที่ 3.3 สับสนทางเพศ

ทำบุญแก้กรรม ตอนที่ 3.3 สับสนทางเพศ

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ
คนมีคุณธรรมจิตใจประเสริฐ จะไม่รังเกียจใครแค่เพราะเขารักเพศเดียวกัน เพราะรู้หลักกรรมว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีความหลากหลายทางเพศและรสนิยมที่เกิดจากวิบากที่ซับซ้อนต่างกัน พระผู้ทรงธรรมท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า “การเป็นเกย์ไม่ใช่ความผิดปกติทางเพศ แต่คือรสนิยมทางเพศของปุถุชน” สำหรับคำว่า.. “ผิดปกติ” ไม่ควรนำมาเรียกแค่เพราะพวกเขาทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ทำ ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเท่านั้น ประโยคของคนที่คิดอะไรได้ไม่เคยเกินสะดือ หัวสมองมีแต่เรื่องผสมพันธ์เป็นหลัก จนไม่มีทางมองเห็นในแง่มุมของ.. “ความรัก” ที่นำมาซึ่งความสุขของคนอีกกลุ่มที่มีความชอบในสิ่งที่แตกต่างจากตนเองได้ พ่อแม่ที่มีลูกเบี่ยงเบนมักทำใจยากจะยอมรับ ความจริงของธรรมชาติและความสุขของลูกไม่ได้สำคัญไปกว่า.. “อายชาวบ้านเหลือเกิน” หากเข้าใจหลักกรรมจนจิตมีคุณธรรมพอ จะไม่มีใครทุกข์ร้อนหรือมองเป็นเรื่องผิดปกติน่ารังเกียจ แต่จะเห็นต้นตอสาเหตุการเกิดเพื่อมาเป็น เห็นวิธีป้องกัน การรับมือและแก้ปัญหาได้ตรงทางมากขึ้น สิ่งที่ควรรังเกียจควรเป็นความเลวในแต่ละบุคคลมากกว่าที่จะเป็นความชอบในเรื่องเพศที่พวกเขามีต่างจากเรา
รายการทีวีนำเสนอคนรถคว่ำแล้วหายเป็นตุ๊ด สร้างความเข้าใจผิดให้สังคมหนักขึ้น จากทัศนคติเดิมของพ่อแม่บางคนที่คิดว่าการด่า-ลงโทษรุนแรง จับไปบวช หรือทำบางอย่างแล้วลูกจะคืนสภาพจิตตรงกับเพศได้ “ตุ๊ดทอมไม่ใช่ไข้หวัด จะได้กินยาขมแล้วหาย!!” ความต้องการทางเพศเปรียบเหมือนกินอาหาร เช่น บางคนไม่ชอบทุเรียน ให้จ้างด้วยเงินแสน บังคับตัดแขนขา สุดท้ายฝืนกินเข้าไปได้ แต่ก็ยังไม่ชอบอยู่ดี ตามหลักกรรมทุกคนล้วนเคยเกิดและเป็นมาแล้วทุกเพศ ดังนั้นทุกคน(ที่ยังไม่บรรลุอริยะ)จึงมีความเป็นหญิงชายซ้อนอยู่ในตัวเสมอ จะได้เกิดเป็นเพศอะไรในแต่ละภพชาติ อยู่ที่จิตสะสมวิบากมาต่างกัน มนุษย์เราเกิดใหม่อาจถือได้ว่าเป็นเพศหญิงทุกคน จนผ่านไป 10 สัปดาห์ คนที่จะได้ร่างกายเป็นชายจึงมีเนื้องอกขึ้นมาเป็นน้องจู๋ มีขนาดทำให้ภูมิใจหรือไม่มั่นใจขึ้นอยู่กับบุญเก่า อาหารการกินและปัจจัยอื่นในวัยเด็กด้วย ทางการแพทย์พบว่าเกย์มีลักษณะพันธุกรรมที่ต่างออกไปจากเพศปกติ ซึ่งเป็นมาโดยกำเนิดจนอาจเรียกได้ว่า.. “เกิดมาเพื่อเป็นเกย์”
          ศาสนาพุทธถือว่าการเป็นเกย์ไม่ได้เป็นบาป การเกิดเป็นเพศอะไร มีชีวิตอย่างไร ล้วนเกิดจากการกระทำที่สั่งสมมา เหมือนการปลูกพืชที่หว่านเมล็ดอะไรไว้ย่อมโตเป็นพืชชนิดนั้น ทุกคนสามารถเลือกเกิดในชาติหน้าเพื่อเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่สะสมวิบากในจิตให้ตรงด้านและทำเหตุปัจจัยให้พอ คำสอนเรื่องผิดศีลข้อสามและมักมากในกาม เป็นกรรมอย่างหนึ่งที่ส่งให้เกิดเป็นรักร่วมเพศ ทำให้บางคนเข้าใจผิดว่า ศาสนาได้แนวคิดเหยียดเพศจากวัฒนธรรมอินเดียสมัยก่อน เรื่องกรรมส่งเป็นเกย์คล้ายแพทย์เตือนว่ากินของหวานเกินแล้วจะอ้วน เป็นคนอ้วนเพราะกินหวานไป ไม่ใช่เรื่องดูถูกเหยียดหยามหรือมองว่าน่ารังเกียจ แค่บอกว่าทำสิ่งนี้จึงได้สิ่งนี้ ศาสนาพุทธไม่ได้เห็นเกย์เป็นคนชั่ว การเกิดเป็นเกย์ไม่ใช่การทำบาป ไม่ใช่เพศชั่วน่ารังเกียจ ถือเป็นเพศที่มีอยู่จริง มีสุขทุกข์ ทำดีทำชั่วได้ไม่ต่างกับหญิงชายทั่วไป มีหลายระดับและเกิดจากกรรมหลายประเภทแยกย่อยได้อีกเยอะมาก ซึ่งจะเห็นผลของกรรมได้จากการที่มีทั้งเกย์ที่มีความสุข ยอมรับตัวเอง ประสบความสำเร็จในชีวิต และมีเกย์ที่มีแต่ความทุกข์ ไม่ยอมรับตัวเอง บางคนมีเพศสัมพันธ์แล้วทรมานใจแทบขาด แต่บางคนกลับสุขปริ่มใจ บางคู่ไม่เคยมีอะไรกันเลย เป็นเพียงคนที่รักกันอยู่ร่วมกันเหมือนเพื่อนเท่านั้น (กรรม=การกระทำ แต่คนชอบเข้าใจผิดว่าคือความชั่วหรือบาป)
         มีกรรมอีกหลายด้านที่อาจส่งให้เกิดมาเป็นเกย์ได้อีก เช่น บางคนมีจิตยึดติดเหนียวแน่นในเพศเดิมของตน แต่ผลกรรมบางอย่างส่งให้เกิดในเพศตรงข้าม อีกกรณีคือการประทับใจรุนแรงในรูปลักษณ์ของเพศตรงข้ามอย่างเหนียวแน่น ถ้าเข้าใจเรื่องจิตใต้สำนึกสะสมความรู้สึกทุกอย่างไว้และส่งต่อข้ามภพชาติได้ จะเข้าใจได้ไม่ยากว่า ผู้ชายที่หลงใหลฝังใจในอวัยวะของผู้หญิง ถ้าจิตใต้สำนึกบันทึกข้อมูลการคลั่งอวัยวะของหญิงไว้เข้มข้นมาก มีผลให้เมื่อเกิดใหม่ถ้าไม่มีข้อมูลด้านอื่นมาแทรกแทรง ก็มีโอกาสที่จิตจะสร้างรูปกายเป็นหญิงตามข้อมูลที่สะสมไว้ ในขณะที่ภายในใจยังรู้สึกพอใจเป็นชายอยู่เข้มข้นเหมือนเดิม กลายเป็นเกิดมาเป็นคนมีใจเป็นผู้ชายแต่ได้ร่างเป็นผู้หญิง(ทอม) หรือกลับกันอาจสร้างรูปกายเป็นชายตามข้อมูลที่จิตเคยคลั่งไคล้ทั้งที่ใจยังพอใจการเป็นหญิงอยู่เหมือนเดิม ก็กลายเป็นคนมีใจเป็นผู้หญิงแต่กลับมีร่างกายเป็นผู้ชาย (กระเทย) ไม่ต้องรอให้ตายไปเกิดใหม่ ผู้ชายแท้บางคนคลั่งนักร้องหญิงมากถึงขึ้นแต่งหญิงเป็นประจำก็มี ลองไปถามกระเทยจำนวนมาก จะพบว่ารู้สึกและเชื่อมาแต่เกิดว่าตนเป็นผู้หญิงจริงๆ ทำความเข้าใจด้วยว่า กระเทย ตุ๊ด เกย์ มีความแตกต่างทางสายพันธ์กันอย่างสิ้นเชิง เกย์จะรู้สึกภูมิใจในความเป็นชายและรู้ตัวเองว่าเป็นชาย เพียงแค่ชอบเพศเดียวกันเท่านั้น หลายคนอาจไม่ได้เป็นเกย์โดยกำเนิด แต่เพราะเบื่อนิสัยผู้หญิง อยากมีคู่รักแบบเพื่อนลุยๆ บางคนถูกชะตากับเพศเดียวกันที่เคยเป็นผัวเมียกันมาในชาติก่อน เขาจะไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นเกย์ เพียงแต่รักผู้ชายคนนี้คนเดียวเท่านั้น และจะขยะแขยงถ้าจะต้องมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น เรื่องของกรรม พิสดารพอกับความชอบกินอาหารของแต่ละคนนั่นแหละครับ กินอาหารก็เพื่อให้อิ่ม มีคนรักก็เพื่อมีเพื่อนร่วมทางต่อสู้ชีวิตเท่านั้น
         สังเกตใหม่ว่าเกย์บางกลุ่มจะมีอารมณ์รุนแรง อารมณ์ทางเพศสูง นี่คือผลจากนิสัยเก่าที่ติดตัวมา คนราคะกล้ามักมีโทสะแรงตามด้วย หลักที่ว่าหากมักมากในกามมีสิทธิ์ได้เกิดเป็นเกย์(ประเภทบ้ากาม) ไม่ใช่การลงโทษจากใคร แต่เป็นสิ่งที่ตอบสนองให้เจ้าของจิตได้อยู่ในสภาวะที่เคยสะสมข้อมูลเก็บไว้ จากชายหญิงปกติที่ชอบเสพหรือมั่วกาม หลังตายเมื่อมีโอกาสกลับมาเกิดเป็นคนอีกครั้ง ก็มักจะได้มาเกิดเป็นเกย์ซึ่งเป็นสภาวะที่เสพกามได้เต็มที่ เปลี่ยนคู่นอนได้ไม่ต้องคิดมากเหมือนชายหญิงปกติ ไม่ต้องท้อง ไม่มีลูก ไม่มีพันธะผูกพัน เป็นเพศสภาพที่พร้อมต่อวิบาก คือ ความต้องการ ความถนัด ความเคยชินที่ได้สะสมมา มนุษย์คือภพเดียวที่ผสมพันธ์เพราะรักได้ หากยังมั่วกามโดยไม่มีความรักไปเรื่อย ก็มีโอกาสตีตั๋วชั้นหนึ่งได้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานต่อในภพหน้า ได้อยู่ในสภาพพร้อมผสมพันธ์โดยไม่มีความรักได้เต็มที่จากจิตที่สะสมความพอใจในการกระทำต่างๆ ไว้นั่นเอง หมายเหตุไว้ด้วยว่า.. เกย์ดีที่ไม่บ้ากาม มีคุณธรรมสูง และรักกันจริงก็มีอยู่เยอะ กรรมที่หลากหลายจะแยกย่อยการเป็นเกย์ประเภทต่างๆ ได้มากมาย การเขียนถึงเกย์ในแต่ละย่อหน้า ไม่ได้หมายถึงเหมารวมทั้งหมด แต่แค่แยกย่อยให้เห็นแต่ละประเภทแบบคร่าวๆ เท่านั้นนะครับ
เกย์หลายคนเพราะมีทุกข์ใจหลายด้าน การไม่มีภาระครอบครัวเหมือนชายหญิงทั่วไป จึงทุ่มเทกับงานได้เต็มที่ ส่งผลให้ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ง่าย หรือดึงให้สนใจปฏิบัติธรรมจริงจังจนกราบไหว้ได้สนิทใจ หลายคนอาจไม่รู้ว่าเกย์จำนวนมากอยู่ในรายชื่อ.. นักรบผู้ยิ่งใหญ่และคนดังในหลายวงการทั่วโลก ศาสนาพุทธไม่เคยถือว่าเพศไหนน่ารังเกียจ มีแค่ว่าเพศไหนสะดวกปฏิบัติธรรม หรือทำอะไรได้ง่ายกว่าเท่านั้น ทำอะไรจึงเกิดเป็นอะไร ท่านบอกสาเหตุของโอกาสที่จะก่อทุกข์ให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องเสี่ยงทุกข์ในอนาคตอีก แต่หากใครไม่สนใจอยากเป็นแบบนั้นต่อไป ก็ไม่มีใครประณาม เพราะหากรักษาศีล ปฏิบัติธรรมได้ถูกต้อง จะเห็นจริงตามคำพระท่านสอนไว้ได้ด้วยตนเองว่า “จิตบริสุทธิ์ไม่มีเพศ” สุดท้ายเราทุกคนต้องมุ่งไปสู่จุดที่ไม่มีเพศในบั้นปลายอยู่ดี
 
หากคุณเป็นเกย์แล้วมีความสุขดี ปฏิบัติธรรมได้ดี ทำประโยชน์ให้สังคมได้ ก็ไม่ควรใส่ใจกับเสียงนินทาของชาวบ้านที่ตะโกนลับหลังว่า “เสียชาติเกิด วิปริตผิดเพศ” เพราะคนเหล่านั้นไม่มีคุณค่าให้ใส่ใจในขณะที่พวกเขาอาจเป็นได้แค่.. “ สัตว์ตัวผู้-ตัวเมีย ที่มีชีวิตอยู่เพื่อคิดแค่เรื่องผสมพันธ์เท่านั้น” เรื่องน่าอายหรือน่ารังเกียจควรเป็นเรื่องของนิสัยและสันดานมากกว่า ผู้ชายไม่ดูแลครอบครัว หลอกฟันแล้วทิ้ง ไม่เคยสร้างความดี เป็นคนไร้ค่าไม่เหลือความเป็นลูกผู้ชายได้เท่า ทอมหรือกระเทยที่รักจริง เลี้ยงดูพ่อแม่และทำประโยชน์ให้สังคม เป็นเกย์ที่ยึดมั่นในการทำดี มีน้ำใจยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรกับคนรอบข้างทุกเพศทุกวัย แต่งตัวให้เหมือนชาวโลกปกติ ทำได้แบบนี้คนส่วนใหญ่เขาไม่รังเกียจหรอกครับ ที่มีปัญหาส่วนมากเป็นเพราะปฏิกิริยาตอบโต้ที่เกิดจากจิตที่คอยระแวงคนอื่นจะมองแง่ลบ ผลสะท้อนเลยต้องทำตัวแรงแบบร้ายๆ หรือพยายามทำตัวโดดเด่นจนกลายเป็นตัวประหลาด และดูน่ารังเกียจ ไม่น่าคบหาได้ในที่สุด
         หากคุณเป็นเกย์ที่รู้สึกทุกข์ใจและอยากเปลี่ยนสภาพตนเอง อยากเปลี่ยนลูกหรืออยากได้แนวทางเพื่อป้องกันไม่ให้ตกอยู่สภาพแบบนี้ มีหลักแนะนำเบื้องต้นคือ.. เลี่ยงกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นเกย์ซึ่งกล่าวไว้ข้างต้น จิตที่ยึดติดเรื่องเพศรุนแรงอาจส่งให้เกิดข้อมูลสร้างรูปกายตรงข้ามกับใจ การคลั่งไคล้ชอบเกินพอดีมีผลเท่ากับการเกลียดเกินพอดีเช่นกัน “เกลียดอะไร จะได้แบบนั้น” ยิ่งเกลียดตุ๊ดเกย์ นึกด่าในใจทุกครั้งที่เห็นที่เจอ จะเกิดวิบากสะสมในจิต มีโอกาสดึงวิญญาณที่จะได้เกิดเป็นตุ๊ดมาเข้าท้องเป็นลูก หรือได้ชายรสนิยมสองแบบมาเป็นสามี สังเกตไหมว่าเวลาเกลียดอะไรนึกภาพปุ๊บมันเกิดชัดในใจปั๊บ แล้วเลือนหายจากใจได้ยาก ยิ่งเกลียดมากจิตยิ่งฝังข้อมูลไว้ลึกและเข้มข้นมาก เมื่อเกิดใหม่มีโอกาสที่จะส่งให้จิตสร้างรูปกายเป็นอย่างที่เคยเกลียดฝังใจไว้ซะเอง พระท่านถึงสอนว่าเจออะไรให้สักแต่รู้ สักแต่เห็น อย่าชอบอย่าชัง วางใจเป็นกลาง อย่าไปว่าเขา ฯลฯ เคยเจอมากับตาที่เห็นคนเกลียดตุ๊ดได้ลูกเป็นตุ๊ดกันหลายครอบครัว เป็นกรรมทันตาในปัจจุบันและยังไม่นับกับชาติหน้าที่อาจต้องไปเกิดผิดเพศซะเองอีกต่างหาก การกล่าวปรามาสบุคคลอื่นโดยเฉพาะผู้ทรงศีลหรือผู้มีบุญ เห็นท่านเรียบร้อย หรืออาจมีกิริยาคล้ายผู้หญิง ก็เผลอลบหลู่ในใจหรือพูดออกมา ก็เป็นกรรมน่าติเตียนที่ส่งผลในอนาคตให้เรามีโอกาสเป็นตุ๊ด หรือทำให้เรามีกิริยาดูเหมือนตุ๊ดให้คนเขานึกด่าหรือดูถูกในใจอย่างที่เราเคยทำไว้ได้เช่นกัน
โปรดจำไว้ว่าเป็นตุ๊ดไม่ได้น่ารังเกียจสำหรับคนที่จิตใจมีคุณธรรม แต่คนส่วนใหญ่ดีหรือชั่วมากกว่ากัน?? นั่นคือเหตุผลว่า คนกลุ่มหนึ่งจะเกลียดตุ๊ดได้แม้ไม่ต้องทำความชั่วอะไร และมันยังเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ที่จะรู้สึกต่อต้านสิ่งที่แตกต่างจากตนเองหรือคนหมู่มากไว้ก่อน แถมหลายศาสนายังโดนแทรกแทรงจากอคติส่วนตัวของผู้นำในบางรุ่นที่ทำให้รู้สึกว่ามีการบิดเบือนคำสอนพระศาสดา จนเกิดเป็นคำสอนว่าเกย์เป็นบาปร้ายแรง ต้องกำจัดทิ้ง มีการลงโทษให้ติดคุกและแขวนคอ หากใครได้ศึกษาธรรมะกันจริงจัง จะรู้ว่าศาสดาแต่ละองค์ท่านเปี่ยมเมตตาและมีปัญญาสูงขนาดไหน ไม่น่าที่จะให้ลงโทษผลักไส รังเกียจหรือฆ่าคนได้แค่มีความชอบในสิ่งที่มันไม่ได้ทำร้ายใครเลย!!
หากเชื่อว่าเราเป็นเกย์จากกรรมที่ผิดศีลข้อสาม ก็ต้องตั้งใจรักษาศีลข้อนี้ให้บริสุทธิ์ให้ได้ ซื่อสัตย์ต่อคนรัก อย่าแอบมีกิ๊ก และต้องอดทนในทุกข์เพราะรักที่ต้องเจอจากกรรมเก่า โอกาสถูกหลอกโดนนอกใจจะมีสูงมากสำหรับเกย์ จนหลายคนเข็ดขยาด ไม่เชื่อมั่นในรักแท้ ปล่อยตัวผิดศีลหนักขึ้นไปอีก สิ่งที่เจอในปัจจุบันคิดว่าหนักแล้วใช่ไหมครับ?? แต่รับรองว่าถ้ายังผิดศีล ปล่อยตัวมั่วกามต่อไป อนาคตจะเจอหนักยิ่งกว่านี้อีกหลายร้อยเท่าแน่นอน!! คนที่ศึกษาปฏิบัติธรรมเต็มที่ อดทนทำดีครบทุกด้านให้มากพอเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสบรรเทากรรม สร้างพลังงานดีในตัวออกไปดึงดูดเอาคนรักดีๆ ให้เข้ามาในชีวิตได้ แต่ส่วนใหญ่คนที่จะอดทนทำได้ถึงขั้นนี้มีน้อยมาก อย่ามัวน้อยใจในชะตาชีวิตที่แสนอาภัพ เพราะหญิงชายปกติก็ทุกข์เพราะรักไม่ต่างกัน บางทีมากกว่าด้วยซ้ำ มีข่าวฆ่ากันแทบทุกวัน
         สำหรับคนที่ตั้งใจจริงอยากหายเป็นเกย์ในชาตินี้ ครูบาอาจารย์แนะนำว่ามีวิธีเดียวคือการปฏิบัติธรรมให้จริงจัง ให้เริ่มต้นด้วยทำทานระดับที่ทำได้ สวดมนต์ทำสมาธิ และที่สำคัญคือถือศีลแปดให้บริสุทธิ์สัก 1-2 ปี ถ้าเจริญสติฝึกดูจิต-ดูกายให้ถูกทางด้วยจะดีมาก เมื่อถือศีลแปดหยุดเสพกามมาสักระยะ จะเห็นชัดว่าถ้าไม่มีความต้องการทางเพศแล้ว เพศอะไรก็ไม่สำคัญเลย จิตบริสุทธิ์ไม่มีเพศ จะเริ่มรู้ตามความจริง จิตเข้าสู่ปกติไม่บิดเบี้ยว บางรายอาจรู้สึกกลับมามีอารมณ์กับเพศตรงข้าม บางรายไม่รู้สึกอะไรกับใครและเห็นชัดว่าจะเป็นสุขกว่าที่ได้ครองพรหมจรรย์ จะทำได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผลที่ได้อาจไม่ใช่กลับเป็นเพศปกติ แต่อาจได้ผู้ทรงศีลมาให้กราบไหว้เพิ่มอีกหนึ่งท่าน
การหวังให้ใครสักคนหายเป็นเกย์ต้องให้เจ้าตัวเต็มใจอยากเลิกเป็นด้วยตนเอง ไม่ใช่การบังคับลูกแต่งงาน หรือจับไปบวชขณะต่อมตุ๊ดแตกขึ้นสมอง นอกจากไม่หายแล้วยังส่งบาปใหญ่ถึงพ่อแม่ด้วยฐานทำร้ายศาสนาให้ดูมัวหมอง ซึ่งเป็นบาปหนักเทียบเท่าการทำร้ายพระพุทธเจ้าเลยทีเดียว เป็นเกย์ที่ไม่ได้ออกสาว มีจริตเหมือนชายปกติไปบวชแล้วตั้งใจปฏิบัติจริงจัง สำรวมตนอยู่ในศีลยังอนุโลมได้ แต่ถ้าแค่ไปห่มเหลือง แล้วเอาแต่นั่งนอน ไม่ปฏิบัติ กรี๊ดกร๊าดไม่สำรวม ตายเมื่อไหร่ได้เกิดใหม่จะรู้ว่าแค่โอกาสจะได้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานยังยากเลยครับ
 
 
         ครูบาอาจารย์กล่าวไว้ว่า.. หากเข้าใจเพศสภาวะของตัวเองแล้ว โดยเฉพาะชายที่มีจิตใจเป็นหญิง ก็ไม่ควรเข้ามาบวชเป็นพระภิกษุ ศาสนาไม่ได้กีดกันแต่ต้องเข้าใจว่าการบวชมีไว้สำหรับคนที่พร้อมเท่านั้น การปฏิบัติธรรมไม่ต้องบวชก็บรรลุธรรมได้ การเป็นพระจุดประสงค์หนึ่งเพื่อเป็นหลักใจให้ศาสนิกได้ยึดถือ และเพื่อการเผยแพร่พระธรรมสืบต่อไป หากมีภาพของนักบวชที่ทำให้ญาติโยมเสื่อมศรัทธาจะทำให้ศาสนาตั้งอยู่ได้ไม่นาน ท่านวางกฎไว้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมในระยะยาว เกย์ที่เป็นลูกที่ดี มีศีล ทำประโยชน์ให้สังคม ยังจะมีบุญส่งถึงพ่อแม่ได้จริงกว่าการบวชแล้วไปทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในพระสงฆ์ ซึ่งเป็นบาปใหญ่ถึงพ่อแม่ด้วย อย่าคิดว่าต้องบวชตามประเพณี ลองค้นพระไตรปิฎกซิว่า มีคำสั่งจากพระพุทธเจ้าตรงไหนให้ชายทุกคนต้องบวช สมัยพุทธกาลเขาบวชเมื่อพร้อมจะทำนิพพานให้แจ้งเท่านั้น
         คำขานนาคมีคำถามว่า เป็นชายใช่ไหม?? ถ้าจิตภายในตอบชัดว่าเราเป็นหญิง มันก็ไม่เหมาะที่จะบวชแล้ว สำหรับเกย์หรือกระเทยที่อยากจะบวชให้ได้จริงๆ ควรโกนหัวห่มขาวไปอยู่วัด ปฏิบัติถือศีลแปดให้ได้สัก 1-2 ปีก่อน เหมือนดั่งพระในสายหลวงปู่ชา พระฝรั่งหลายรูป(ไม่ได้เป็นเกย์)ก็ทำแบบนี้ เขาเรียกว่าบวชเป็น.. “อนาคาริก” ปฏิบัติไปจนจิตตั้งมั่นในธรรม และตอบได้ชัดว่าเป็นผู้ไม่ยึดติดทางเพศ จิตไม่บิดเบี้ยวไม่รู้สึกว่าตนเป็นหญิง ไม่รู้สึกว่าชอบผู้ชายแล้ว จิตแบบนี้ถึงเหมาะที่จะบวชเป็นพระภิกษุได้แบบน่าอนุโมทนา เวลาขานนาคก็สามารถตอบว่าเป็นชายได้เต็มปากเต็มใจ
ผมเชื่อว่าถ้าพระพุทธเจ้ายังอยู่ ถ้าจะทรงอนุญาตให้เกย์ กระเทยบวชได้ ท่านน่าจะต้องตั้งวินัยหรือกฎให้เฉพาะต่างหากเหมือนที่มีกฎพิเศษเพิ่มสำหรับภิกษุณี ยกตัวอย่างการถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายไม่อาบัติ เพราะชายแท้ไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าพระเป็นเกย์ แน่นอนว่า การถูกเนื้อต้องตัวเด็กหนุ่ม ชายหนุ่มหรือแม้แต่พระด้วยกันย่อมทำให้จิตหวั่นไหว การร่วมชายคาเดียวกันหากชาวบ้านรู้ว่ามีพระเป็นเกย์ ก็ทำให้เกิดคำครหานินทาได้ การไม่ปฏิบัติธรรมจริงจัง การดูทีวีฟังเพลง กินอาหารหลังเพล ล้วนสะสมให้เกิดกิเลสราคะแรงกล้าจนตบะแตกกันมาเยอะ มีจำนวนมากที่ตั้งใจปฏิบัติดีแต่ด้วยทนต่อกิเลสไม่ไหว พระเณรหุ่นดีผิวดี ธรรมชาติของวัยหนุ่มที่หากไม่มีสุขจากการปฏิบัติธรรมมาทดแทน จิตย่อมโหยหาในกาม สุดท้ายก็ได้กันเองในวัดก็มีกลายเป็นข่าวและยังไม่เป็นข่าวอีกไม่รู้เท่าไหร่
 
มีหลายข้อตามพระวินัยที่เราจะมองเห็นได้ชัดว่า ท่านตั้งกฎไว้เพื่ออะไร กันพระหนุ่มออกมาจากหญิงสาว เพื่อการทำความเพียรได้ง่ายขึ้น เรื่องเพศมีผลต่อหมู่คณะ ควรแยกแต่ละเพศให้มีการปฏิบัติต่างกันอย่างไร ทำไมภิกษุณีถึงต้องมีกฎเข้มงวดมากกว่า เพื่อความเรียบร้อยและสง่างามของหมู่สงฆ์อย่างไร ถ้าเข้าใจตรงนี้จะรู้เลยว่า จำเป็นต้องมีข้อปลีกย่อยอีกมาก หากมีเพศสภาพที่ไม่ตรงกัน แต่นี่หมายถึงการอยู่รวมของหมู่สงฆ์และภาพขององค์กรสงฆ์ แต่สำหรับการศึกษาธรรม การเป็นคนดี ไม่มีข้อแม้ให้สำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยอยู่แล้ว ทางที่ดีคือ เป็นคนดีในคราบของฆราวาสจะดีกว่า เพราะบรรลุอริยะได้เช่นกัน ถ้าอยากปลีกวิเวกปฏิบัติจริงจัง ก็ควรเลือกเดินตามรอยของการปฏิบัติตนแบบ “อนาคาริก” แล้วค่อยบวชทีหลังจะเหมาะสมที่สุดครับ
         (หมายเหตุ : คนธรรมดาที่ไม่ใช่เกย์หากไปบวชแล้วไม่ปฏิบัติ ทำภาพพระสงฆ์เสียหาย ก็ถือว่าได้ทำลายพระพุทธศาสนา มีบาปร้ายแรงเทียบเท่าทำร้ายพระพุทธเจ้าเช่นกัน พวกบวชตามประเพณีนี่ หลวงพ่อท่านว่าตกนรกกันมากทีเดียว บาปกรรมความซวยติดตัว สึกออกมาแล้วเจริญฮวบๆ ให้เห็นทันตามีมากมาย บวชแล้วไม่ปฏิบัติ ไม่รักษาวินัย ผิดศีลกินมาม่า/สาหร่าย หลายคนไม่ได้ปลงอาบัติก่อนสึก เงินที่เขาทำบุญ เขาทำกับพระศาสนา สึกแล้วเงินที่ได้ต้องถวายคืนวัดหมด เอาออกมาก็เท่ากับขโมยของสงฆ์ มีหลายเรื่องที่เป็นบาปใหญ่แต่กลับไม่รู้ และไม่มีการสอนให้เข้าใจ สำหรับคนที่ผิดแบบไม่รู้ ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ยังทำกรรมดีบรรเทาความผิดได้เสมอ ตั้งใจศึกษาปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ในวันนี้ ทำทานให้เป็นประจำ รักษาศีล หมั่นฟังธรรมศึกษาธรรม คือทางออกที่ดีที่สุดนะครับ)
ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่http://www.jozho.net/index.php?mo=14&newsid=335403


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ข่าวสารทางPolice​การกระตุ้นเศรษฐกิจของทุกผู้ประกอบการทุกระดับมีความสำคัญ ตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดเล็กเช่นพ่อค้าที่ปั่นจักรยานขายล็อตเตอรี่ ไปจนถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ♧

โครงการผู้ว่าเปิดแหล่งศึกษา