การทำสังฆทาน

12 ก.ย. 2016

ถ้าสิเฮ็ดสังฆทานให้ได้บุญกุศลหลาย สิบอกเด้อเฮ็ดจังใด๋

๑. อาหารที่เฮามาเอาเฮ็ด

ต้องเป็นสิ่งที่บ่แมนคนในงานเฮาฆ่า ละกะบ่ได้ไปบอกเขาฆ่า

แต่เป็นสิ่งพ่อค้าแม่ค้าเขาฆ่าเองให้ตายแล้ว หรือว่าสัตว์นั้

นตายเองแล้ว เฮากะแค่ไปซื้อเอามา

# เช่นสมมุติ ณ โรงฆ่าหมู หมา ปลา เป็ด ไก่ แห่งหนึ่ง

มีพ่อค้าขายหมู หมา ปลา เป็ด ไก่ คนหนึ่ง เขาฆ่าหมู

ฯขายตามปกติทุกวัน เขาจะฆ่าวันละ ๔ ตัวบ้าง ๕ ตัวบ้าง

เป็นประจำทุกวัน

พอเขาฆ่าเสร็จปุ๊บ ก็ประกาศขายทั้งตัว หรือแล่เนื้อเอา

มาขาย

(แล้วเราจะทำสังฆทานใช่ไหม "ผู้ใหญ่ก็สั่งลูกให้ไปซื้อหมูฯ มา

เราก็ขี่รถไป ณ โรงฆ่าหมูฯนั่นแหละ

ก็จอดรถ ลงรถ เดินไปขอซื้อหมูฯที่พ่อค้าเขาฆ่าเองนั้น

ก็พูดจาตกลงราคาซื้อขายกันเรียบร้อย ก็จ่ายเงินเสร็จ

และเดินไปนำหมูทั้งตัว หรือเนื้อบางส่วนนั้น ที่เขาฆ่าแล้ว

เอาขึ้นไปไว้บนรถ

แล้วจากนั้นก็เดินขึ้นรถ ขี่กลับมาบ้าน

พอถึงบ้านแล้ว ก็เอามาให้พ่อครัวแม่ครัว ทำเป็นอาหาร

เมนูต่างๆ ผัดนั่นผัดนี่ แกงนั่นแกงนี่ ก็ว่าไป

แล้วก็เอาไปถวายพระ

(นี้เรียกว่า สิ่งที่เอาไปทำสังฆทานบริสุทธิ์ และย่อมเกิดอานิ

สงค์ใหญ่มีแต่บุญกุศล ไม่มีบาปมาแจม

เพราะเราไม่ได้ฆ่า ไม่ได้สั่งให้ฆ่า)

::ย้อนกลับไป แต่ถ้าเราไปโรงฆ่าสัตว์ฯ แล้วพูดว่า "ฆ่าหมู หมา

ปลา เป็ด ไก่ ให้ผมหน่อย คือที่บ้านมีงานครับจะทำสังฆทาน

ครับ

แล้วพ่อค้า ก็เดินไปฆ่าหมู หมา ปลา เป็ด ไก่ แล้วเอามา

ให้เราซื้อ

เราก็ซื้อแล้วก็เอาใส่รถ

และขี้กลับบ้าน

ก็ทำเป็นเมนูต่างๆ แกงบ้าง ผัดบ้าง เป็นต้น

แล้วก็เอาไปถวายพระ

(นี่เรียกว่า สิ่งที่เอาไปทำสังฆทาน ไม่บริสุทธิ์ มีทั้งบาปมีทั้งบุญ

และเป็นสังฆทานที่เศร้าหมอง

ไม่เป็นสังฆทานที่บริสุทธิเหมือนข้อแรก)

แนะนำให้ทำสังฆทานบริสุทธิ์แบบข้อแรกจะเป็นบุญกุศลใหญ่(

เต็มใบ)

ให้ผลกับผู้ตายมาก

จากนั้นก็ทำใจให้บริสุทธิ์ตั้งแต่อยู่บ้านยิ่งดี

พอถึงวัดแล้ว

ก็ตั้งจิตตั้งใจให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น โดยทำตามนี้

๑ จะไม่ฆ่าสัตว์โดยเจนาเด็ดขาด แม้มดกัด ยูงกัด แต่จะเป่า

เขาออกไป หรือหยิบเขาออกไป

๒ จะไม่โกงหรือลักขโมยสิ่งของๆผู้อื่นใดๆทั้งสิ้น

๓ จะไม่พูดโกหก(แม้พูดเล่นๆ)

๔ จะไม่ดื่มของที่มึนเมาชวนให้ขาดสติ(เพราะจะทำให้จิต

ไม่มีกำลังเวลาอุทิศบุญ เพราะอุทิศบุญต้องใช้สติและสมาธิ

นึกหาผู้ตาย)

๕ ใจเราจะไม่ประทุษร้ายอาฆาตพยาบาทใครๆใดๆทั้งสิ้น

เราจะให้อภัยให้หมดเลย

๗ เราจะไม่มีความโลภในบุญ บุญจากสังฆทานครั้งนี้เราตั้งใจ

ว่าจะอุทิศให้นาย ก. หมดเลย

(คือไม่ให้เหลือไว้เป็นส่วนของเรา)

จากนั้นพอถวายพระแล้ว

ก็ให้อธิฐานพร้อมกับนึกถึงผู้ตาย

"บุญจากการทำสังฆทานที่บริสุทธิ์ในครั้งนี้ พระพุทธเจ้าตรัส

ว่า มีอานิสงค์หลายจนนับบ่ได้ ขอให้อานิสงค์นี้จง

เข้าไปสำเร็จผลในพ่อใหญ่ ก. เด้อสาธุ)

# สาเหตุ ที่ไม่มีข้อกาเม เพราะไม่คิดว่าจะมีคนผิดศีลข้อน

ี้ในเวลาลักษณะอย่างนี้

# สาเหตุ (ตอนอธิฐาน) ที่ให้นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน แล้วจึงนึก

ถึงผู้ตาย

เพราะจิตที่นึกถึงพระพุทธเจ้าย่อมมีพลังสว่างติดมากับจิต

แล้วเราก็นึกถึงผู้ตาย

ความสว่างก็จะไปหาจิตผู้ตายด้วย ไปทั้งบุญกุศลไปทั้ง

ความสว่าง

####

ถ้าอ่านไม่เข้าใจ ให้คอมเม้นถามเด้อ

12 กันยายน 2016 เวลา 15:00 น. · Facebook for Android ·

ความเป็นส่วนตัว: เฉพาะฉัน

เพิ่มรูปภาพ · บันทึก · เพิ่มเติม

คุณ, Orapan Obtong และคนอื่นๆ อีก 28 คน

Pui Chutima

สาธุๆๆ # อ่านมาทั้งหมด เข้าใจอยุ่ค่ะ อยุ่ดีมีแฮงฮอดม

ึ้เหดสังฆทานกะว่าสิเอาเมนูปลาด้วย สิเหดจั่งใดดีคะ อย่าง

อื่นผ่านหมด แฮงเว่ากันกะน้าตุ้แล้วเดะคะ

ถูกใจ · แสดงความรู้สึก · ตอบกลับ · ลบ · 12 ก.ย. 2016

Cheerasak T N Pakcharoen

สาธุคราฟ

ถูกใจ · แสดงความรู้สึก · ตอบกลับ · ลบ · 12 ก.ย. 2016

พระมงคลชัย กิตติโสภโณ อย่าหลงวิบากเด้อ

"เมนูอะไรก็ได้ ที่เราไม่ได้ฆ่าสัตว์เอง ไม่ได้บอกให้ฆ่าเพื่อเรา ก็

จะกลายเป็นสังฆทานบริสุทธิ์ ไหนๆก็จะทำบุญใหญ่ขนาดนี้แล้ว

ทำไมไม่ทำให้มันบริสุทธิ์ไปเลย"

เมนูปลาทู เมนูแกงปลาย่าง เมนูข้าวปุ่น เมนูผัดหมูผัดคะน้า

เมนูแกงจืด เมนูของหวาน เมนูแจ๋วปลาแดก เมนูผักลวก อันนี้ก็พิมพ์อ่

านเฉยๆ

*******

สมัยพุทธกาล ชาวบ้านเขาสังฆทาน เขา๓หม้อ ๓ อย่าง

พอทำเสร็จแล้ว

ก็ไปนิมนต์พระพุทธเจ้ามา พร้อมด้วยสาวก

จากนั้น

ก็ไปเอาบาติพระพุทธเจ้ามา ก็ไปเอาบาติพระส

งฆ์สาวกหลายๆรูป ที่มากับพระพุทธเจ้า

ก็ตักอาหารจาก๓หมอใส่ในบาติ จนครบพอกันทุกบาติ

ก็เอาไปถวายพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวก

# จะเห็นว่า คนสมัยก่อน ทำสังฆทานง่ายมาก

ใช้ภาชนะหม้อแค่๓อัน และที่ตัก๓อัน

เพราะสมัยก่อนนั้น ตามที่ได้อ่าน ถ้าทานกับพระ เขา

จะพยายามไม่ฆ่าสัตว์ไปทาน จนต้องเอาส้มผักกาดไปทาน

ขนมไปทาน ข้าวปลายไปทาน น้ำต้มผักดอกไปทาน

แต่ถ้ากินเองก็ยังฆ่าสัตว์อยู่