เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

# ชาติที่หนึ่ง

มีคนทำไม่ดีกับเรา

ทางกาย,วาจา,

ถ้าเราคิดจะจองเวรชายหรือหญิงคนหนึ่งนั้น

ซึ่งเขาได้ทำไม่ดีกับเรา

ทางกาย ทางวาจา

และเรายังติดใจยังจะเอาคืนเขาให้ได้

ให้เขาต้องรับทุกข์ทรมาณอย่าสาสมใจให้ได้

"ด้วยจิตคิดอาฆาตจองเวรแบบนี้แหล"ด้วยจิตคิดอาฆาตจองเวรแบบนี้แหละ"

พอตายถ้ากุศลให้ผลนะ

# ชาติที่สอง

พอตายลงด้วยกุศลส่งพอให้ได้เกิดเป็นมนุศย ส่งให้ทั้งสองคนเลยนะ

ได้อัตภาพความเป็นมนุษย์

คือได้เกิดเป็นมนุษย์

อยู่ในแวดวงใกล้กัน

เช่น คนรู้จัก ,ญาติ ,เพื่อน , คนรัก หรือใกล้ขนาดกระทั้งเป็น(แม่เวรแม่กรรม

พ่อเวรพ่อกรรม

ลูกเวรลูกกรม)

คืออยู่ในสายเลือดตระกูลเดียวกันเลย

พอสองคนนั้น ได้เกิดชาติมนุษย์ใหม่แล้ว

ทั้งที่ไม่รู้จักกันเลยจำกันไม่ได้ในอดีตชาติ

เลย

ก็จะต้องมีเหตุการณ์ที่จะต้องได้เจอกัน

มีแรงผลักดันหรือพลังอำนาจลึกลับที่จะให้เราต้องเอาคืนเขา เพราะ

เป็นทีของเรา กรรมมันจะดันลักษณะแบบนี้

แต่ก็ขึ้นอยู่กับเราด้วยเราจะสนองทำตามอำนาจแรงผลักดันนั้นไหม

ถ้าตั้งสติได้.ปฏิญานในใจ ไม่เอาคืนๆไม่ทำๆ จะอภัยๆ อภัยให้เขาทั้งๆที่

มันน่าจัดสุดๆ ตบสักฉากให้หายอึดอัด กำปั้นใส่สักทีให้สะใจ

ทางวาจา เปิดปากพ้นไฟพูดให้ไหม้ไปถึงโคตรมันเลย

ทางใจ กูจะคิดพยาบาต อาฆาตจองเวรสาบแช่ง มันให้ฉิบหายไปเลย

เป็นต้น

โทษฐานทำความเดือดร้อน

เป็นทุกข์ทางกาย

เป็นทุกข์ทางใจให้กรู

แต่... เรากลับไม่ทำ

เราเลือกอภัยให้เขา ทำดีต่อเขาพูดดีต่อเขาคิดดีต่อเขา

ก็คือไม่ต้องการเอาจิตไปผูกเวรเขาไว้

เวรก็จะระงับด้วยการไม่จองเวร ดั่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้

แต่ถ้าเราเลือก ฮื๋อ..มันน่าจัดสุดๆ ตบสักฉากให้หายอึดอัด กำปั้นใส่สักทีใ

ห้สะใจ

ทางวาจา เปิดปากพ้นไฟพูดให้ไหม้ไปถึงโคตรมันเลย

ทางใจ กูจะคิดพยาบาต อาฆาตจองเวรสาบแช่ง มันให้ฉิบหายไปเลย

เป็นต้น

โทษฐานทำความเดือดร้อน

เป็นทุกข์ทางกาย

เป็นทุกข์ทางใจให้กรู

มันก็จะไม่ระงับ

# ชาติที่สาม

ทั้งสองได้อยู่ในแวดวงเหมือนชาติที่สอง

เขาได้ครูดีความคิดเขาจึงเปลี่ยนไป

รู้จักบาปบุญคุณโทษ กรรมดี กรรมไม่ดี

กรรมดำ กรรมขาว กรรมไม่ดำกรรมไม่ขาว ก็คือเขาเปลี่ยนไป เขาเป็นคนดี

ในสังคม เขามีศีลสัตย์ อยู่ในธรรมะ เขาเจริญภาวนา

เขาเดิดมรรคเพื่อเป็นโสดาบัน หรือเขาบรรลุอรหันต์

แต่ว่าด้วยแรงกรรม ด้วยอำนาจมืดผลักดัน มันให้โอกาสเราทำเขา

ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ หลายอย่าง

"ถ้าเราไม่มีสติ ยับยั่ง

ก่อกรรมทางกาย

ทางวา

ทางใจ

เราฉิบหายแน่ๆเลย ถ้าไปทำกับคนอย่างนั้นเข้า

ถึงกรรมจะให้โอกาสเป็นทีเราก็ตาม

ถ้าเราฝืนไม่ได้ ทำลงไป ภพใหม่อาจล่วงลงถึงนรก

โดยเฉพาะทำกับพระโสดาปัตติมรรคขึ้นไป

คือ บุคคลที่ธรรมะธรรมโมหน่อย กำลังเจริญภาวนาเพื่อขึ้นเป็นโสดาบัน

คนที่ภาวนานั้นดูได้ยากมาก

ว่าคนไหนภาวนา

เพราะมันนามธรรม จับต้องจิตไม่ได้เลย

จึงรู้ได้ยาก

ถ้าเราเผลอทำกรรมกับคนประเภทนั้นลงไป

จะหนักมาก

# ทำกรรมทางกาย ,

# ทำกรรมทางวาจา ,

ล้วนออกมาจากเจ้านาย คือจิตวิญญาณ

หรือมโน,ใจ

ขอยกเรื่องพระสูตรหนึ่งขึ้นมา

ในสมัยพุทธกาล

มีชายคนหนึ่งไปเรียนดีดกวาดกับอาจารย์

หลังจากเรียนจบ

พอเรียนจบแล้ว

อยากจะทดลองวิชาดีดกวาดที่ตนเองได้เรียนมา อาจารย์จึงบอกว่า

อย่าไปดีดใส่สัตว์ใส่คน เพราะเขามีเจ้าของ

หลังจากเวลานั้นผ่านไป

เขาเห็นชายคนหนึ่งกำลังจะเดินผ่าน จึงคิดว่า จะทดลองกับ ชายคนนี้แหละ

คงจะไม่มีเจ้าของ

ชายคนนั้นกำลังเดินจะไปขออาหารในหมู่บ้าน

ชายดีดกวาด จึงดีดกวาดใส่รูหูซ้าย ของชายที่กำลังเดินไปขออาหารนั้น

ก็ได้โดนรู้หูซ้ายทะลุรูหูขวา

ชายขออาหารคนนั้นเมื่อโดนดีดใส่แล้ว เลือดก็ไหลออก ทุกขเวทนาจึงเกิ

ดขึ้นอย่างแรงกล้า

ไม่สามารถเดินเข้าไปบิณฑบาตได้ต่อ

จึงเข้าฌานแล้วเหาะกลับไปที่ภูเขาที่ตนอยู่

แล้วก็ปรินิพพาน

# ชายขออาหารคนนั้นก็คือพระปัจเจกพุทธะ

# คนดีดกวาดคือ,ทำกรรมใหม่ หรืออาจเป็นเจ้ากรรมนายเวรของ พระปัจเจก

ที่กรรมให้โอกาสเอาคืน

สรุปคือ ชายขออาหารคือพระปัจเจก ท่านตรัสรู้ธรรมแล้ว ท่านจึงปรินิพพา

ชายดีดกวาด ต่อมาได้ตาย และหมกไหม้อยู่ในนรกหลายล้านๆๆๆปี

พอกรรมเบาบาง เคลือนจากนรก

มาเป็นเปตรถูกไฟไหมตลอดเวลา

จนเวลาผ่านมาถึง ศาสนาของ


พ่อแม่คือสิ่งที่สะท้อนวิบากกรรมของเราได้แรงที่สุด


กรรม แปลว่า :การกระทำด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ)

วิบาก แปลว่า : ผล

วิบากกรรม แปลว่า ผลของการกระทำ

เช่น

ทางกาย  •  คือถ้าเราโกธรแล้วเอาเท้าถีบแม่ตนเอง 

จะสำเร็จเป็นกรรมทางกายทันที บาปมากกว่าเอาเท้าถีบแม่ของคนอื่นหลายเท่ามากมาย

ทางวาจา • คือถ้าเราด่าท่านด้วยความโมโห..กริ้วโกธร 

จะสำเร็จเป็นกรรมทางวาจาทันที บาปมากกว่าไปด่าแม่ของผู้อื่นหลายเท่า

ทางใจ • คือการมีความผูกอาฆาตพยาบาทท่าน คิดที่จะประทุษร้ายแม่หรือพ่อ


• พ่อแม่คือรากของชีวิต 

ถ้าไม่บำรุงราก ชีวิตก็ยากจะเจริญ

 

• น้ำหนักของกรรมดีที่คุณทำกับพ่อแม่

จะให้ผลชัดเป็นความไม่ตกต่ำ

แม้ชาติปัจจุบันถูกกรรมเก่าร้ายๆเล่นงาน

ก็จะได้รับความช่วยเหลือ 

ผ่อนหนักให้เป็นเบาตามสมควร

 

: ถ้าจะถามว่าใครเป็นคนกำหนดให้ต้องนึกถึงบุญคุณพ่อแม่ 

ก็ต้องตอบว่าธรรมชาตินั่นแหล่ะที่กำหนด

และฝังไว้ในสำนึกว่าการรู้คุณพ่อแม่เป็นคุณสมบัติของผู้มีใจสูง

คนเราจะทราบว่าตนมีใจสูงหรือใจต่ำ 

ก็ดูง่ายๆว่าจำได้หรือเปล่าว่าพ่อแม่สำคัญแค่ไหน

 

"เพราะพ่อแม่มีชีวิตต่อได้ถ้าไม่มีคุณ

แต่คุณมีชีวิตขึ้นมาไม่ได้ถ้าขาดพ่อแม่"

 

• สำหรับพ่อแม่เป็นข้อยกเว้นพิเศษ ไม่ว่าจะดีเลวอย่างไร 

ถ้าทำคุณกับพวกท่านก็ได้ผลเป็นความสุขความเจริญ

เพราะได้ชื่อว่ารู้คุณคน ได้ชื่อว่าตอบแทนผู้ควรตอบแทน 

ได้ชื่อว่าใช้หนี้อันควรใช้ 

ตราบใดไม่ใช้หนี้ตามสมควร 

ตราบนั้นชีวิตย่อมเต็มไปด้วยแรงกดดัน

 

• เมื่อใช้หนี้พ่อแม่ด้วยความสุข

มีความปลาบปลื้มยินดี 

แรงกดดันย่อมแปรเป็นขั้วตรงข้าม

คือกลายเป็นแรงหนุนส่งให้ขึ้นสูงได้ยิ่งๆขึ้น

 

• เนื่องจากพ่อแม่และพระอรหันต์เป็นของใหญ่

ทรงคุณสูงสุดทำอะไรกับพวกท่านไว้เป็นประจำ

จึงให้ผลคงเส้นคงวาไปทั้งชีวิตในชาติถัดมา

 

• การอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่

หรือผู้มีพระคุณให้อยู่สุขสบาย 

จะเป็นตัวตั้ง

เป็นหลักประกันว่าทั้งชาตินี้และชาติหน้า

จะเจริญรุ่งเรืองในการทำมาหากินยิ่งๆขึ้นไป 

กับทั้งเป็นผู้ได้รับมรดกจากผู้หลักผู้ใหญ่

ไม่ถูกแย่งชิงหรือมีเหตุให้เสียมรดกไปอย่างไม่สมควร 

 

: นี่เป็นหลักการสะท้อนให้เห็นว่า

ทุกคนเป็นทายาทแห่งกรรมของตน 

ทุกคนจะเป็นผู้รับมรดกที่ตนสร้างทำไว้อย่างเป็นรูปธรรม 

 

. . . . . . . . . . . . . . . .

 

• กรรมที่ลืมบุญคุณคน

ก็จะทำให้เป็นผู้ไม่ได้รับความเห็นใจช่วยเหลือในยามลำบาก

แต่หากถึงขั้นเนรคุณได้นี่จะต้องโดนโทษหนัก

ทำอะไรต่อให้เจริญแค่ไหนก็จะกลับตกต่ำอย่างไม่คาดฝัน

 

 : คนอกตัญญู แม้ได้รับมรดกก็ต้องตกไปอยู่ในห้วงของการแย่งชิง

ทำนองศึกสายเลือดหรือมีเหตุให้สมบัติพินาศลง 

หรือแม้สมบัติไม่พินาศก็กลายเป็นของร้อนที่ครอบครองแล้ว

ไม่เป็นสุขเนื่องจากสมบัติบันดาลจากบุญเก่า

โดยปราศจากบุญใหม่อันได้แก่ความกตัญญูมารักษาความสงบเย็น


• ถ้าเคยคิดว่ากรรมที่ทำไว้กับพ่อแม่ไม่เท่าไหร่

รีบเปลี่ยนความคิดเถอะครับ

เพราะตอนรับผลตรงๆ

เป็นความเดือดเนื้อร้อนใจเกี่ยวกับลูกหลาน

 

แล้วจำได้เป็นฉากๆว่าไอ้ที่ประสบอยู่นั้น

เป็นสิ่งที่เคยทำไว้กับพ่อแม่อย่างไร

บางทีอาจสายเกินกว่าจะแก้อะไรแล้ว

ต้องแบกวิบากอ่วมอรทัยกันยืดเยื้อยาวนานแล้ว

 

• โทษของการกดหัวใช้ผู้คนเยี่ยงทาสเป็นจำนวนมาก

ยังนับว่าเบากว่า การกดหัวใช้พ่อแม่ด้วยจิตสกปรกเห็นพ่อแม่เป็นคนใช้

และการกดหัวใช้พ่อแม่ไปทั้งชาติ

ก็อาจได้น้ำหนักประมาณเดียวกันกับการกดใช้พระอรหันต์

โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์สักระยะหนึ่ง

 

• กรรมที่เหวี่ยงให้ไปเกิดในตระกูลต่ำ

ต้องเป็นข้าทาสบริวารชนิดเลี่ยงไม่ได้ ดิ้นรนไม่รอดนั้น

ได้แก่การกดหัวใช้ผู้ทรงศีล กดหัวใช้พ่อแม่

หรือกดหัวใช้ผู้คนจำนวนมาก คำว่า ‘กดหัวใช้’ ในที่นี้

 

ผมหมายถึงการมีความคิดเหยียด

มีใจเย่อหยิ่งจองหอง

ถือสิทธิ์หรือถือโอกาสที่อยู่ในฐานะเหนือกว่า

วางอำนาจใช้สอยคนด้วยใจคิดข่มขี่ข่มเหง

 

• พ่อแม่คือรากของความเป็นคุณ

คนเราถ้าบำรุงรากให้เจริญขึ้นได้

หรืออย่างน้อยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้

ก็คือทำตัวเองให้รุ่งโรจน์ขึ้นนั่นเอง

 

คิดข้ามช็อตดีกว่า

อย่ากลัวบาปจากการทะเลาะกับพ่อแม่

หันมากลัวไม่ได้บุญจากการมีส่วนเปลี่ยนพ่อแม่ให้เย็นลงกันเถอะ!

 

. . . . . . . . . . . . . . . . .

 

• การคิดเลี้ยงดูให้พ่อแม่สุขทั้งกายสบายทั้งใจ

นับเป็นการตอบแทนครึ่งเดียว

หากจะตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อนั้น

คุณต้องมีโอกาสด้วย

 

โอกาสที่ว่านั้นคือพ่อ และ/หรือ แม่ของคุณยังไม่มีที่พึ่งให้ตนเอง

ได้แก่ความรู้ความศรัทธาในเรื่องกรรมและการให้ผลกรรม

ยังไม่มีความตั้งมั่นในทาน

ยังไม่มีความตั้งมั่นในศีล

แล้วคุณสามารถโน้มน้าว

ชักชวนให้พวกท่านมาศรัทธากรรม

ฝึกให้ทานจนไม่ให้แล้วเหมือนขาดอะไรไป

ฝึกถือศีลจนประพฤติผิดแล้วรู้สึกผิดรุนแรง

นั่นแหละจึงได้ชื่อว่าตอบแทนคุณท่านอย่างสมน้ำสมเนื้อ

 

• ธรรมชาติพิเศษของการใช้หนี้บุญคุณมีอยู่ประการหนึ่ง

คือยิ่งหนี้สูงแล้วคุณใช้คืนอย่างสมน้ำสมเนื้อ

คุณจะได้คะแนนบวกมหาศาล

น้ำหนักของกรรมดีที่คุณทำกับพ่อแม่จะให้ผลชัดเป็นความไม่ตกต่ำ

แม้ชาติปัจจุบันถูกกรรมเก่าร้ายๆเล่นงาน

ก็จะได้รับความช่วยเหลือ

ผ่อนหนักให้เป็นเบาตามสมควร

 

• หากคุณไม่ตอบแทนพ่อแม่เลย

ลูกของคุณจะทำหน้าที่ทวงแทน

คือกรรมของคุณจะไปดึงดูดเอาพวกที่จะมาเป็นลูกล้างลูกผลาญ

และไม่สำนึกบุญคุณ หากคุณไม่มีลูกก็ทบหนี้ไปถึงชีวิตหน้าในเกมต่อไป

 

ในทางกลับกัน

หากคุณมีลูกแล้วไม่รับผิดชอบดูแลลูกเมียให้ดี

มันอาจหมายถึงการเลื่อนเวลาชดใช้หนี้เก่าก็ได้

ต้องแยกให้ออกว่าลูกอาจติดหนี้น้ำกามของคุณ

แต่คุณเองก็อาจเคยติดหนี้เขาไว้ก่อน (และโดยมากจะเป็นเช่นนั้น)

หากเขามาทวงหนี้คืนแล้วไม่ใช้

ชาติต่อไปคุณก็มีสิทธิ์สูงที่จะไปเกิดกับพ่อแม่ที่ขาดความรับผิดชอบ

เลี้ยงดูแบบทิ้งๆขว้างๆ

หรือฝากคนอื่นเลี้ยงจนคุณว้าเหว่และมีปัญหาตั้งแต่เล็ก

 

• พระพุทธเจ้าให้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่

ด้วยที่พึ่งอันแท้จริงคือความเข้าใจธรรม

ตั้งมั่นในทานและศีล แต่ที่เราควรทำให้ตนคือภาวนาไป 

 

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

 

• ทำอย่างไรจึงจะไปเกิดกับพ่อแม่ที่ดี ? 

 

: คำตอบคือทำแต่กรรมที่ดีๆ

เพราะพระพุทธเจ้าตรัสว่า

พวกเรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์มีกรรมเป็นแดนเกิด 

 

ฉะนั้นอย่าน้อยใจ และอย่าชะล่าใจ

กับกรรมเก่าที่ส่งเรามาอยู่กับพ่อแม่ดีหรือไม่ดีในชาติปัจจุบัน 

 

อยากมีพ่อแม่แบบไหนในครั้งหน้า 

ก็ขอให้ประพฤติตัวแบบนั้นมากๆไปจนชั่วชีวิตก็แล้วกัน 

กรรมที่คุณทำเป็นอาจิณนั่นแหละตัวเลือกแดนเกิด ตัวเลือกเผ่าพันธุ์ใหม่ให้

 

. . . . . . . . . . . . . . . . . .

 

• เรื่องการเลี้ยงสัตว์ก็ดี

เรื่องการเลี้ยงลูกก็ดี

ต้องคำนึงมากๆครับว่า

เหล่านั้นคือสิ่งมีชีวิต เราให้เขามีชีวิตอย่างไร

เมื่อถึงเวลาย้อนกลับมาถึงตาเราชีวิตเราก็เป็นอย่างนั้นด้วย


• ธรรมชาติบีบให้คนทั่วไปอยากมีลูก

เว้นแต่คนที่อยากเป็นอิสระ

หาเลี้ยงตัวยังไม่ได้ 

ไม่รู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งอย่างพ่อ

ขาดความอ่อนโยนอย่างแม่ 

 

~ นอกจากนั้น.. 

คนที่สั่งสมบารมีในการหลุดพ้นมากๆ 

ที่เกิดชาติสุดท้ายจะไม่อยากมีลูก 

ทั้งที่ก็เลี้ยงตัวได้ มีคุณสมบัติเป็นพ่อเป็นแม่ได้ 

 

: มีลูกยังไม่ได้ตัดสินว่ามีบุญหรือมีบาป

ถ้าลูกทำความสบายใจให้เป็นส่วนใหญ่

จึงถือว่ามีบุญที่เป็นแดนเกิดให้คนมีบุญครับ 


• เราทำอะไรดีหรือไม่ดีไว้กับใคร

 จะเห็นตัวเองชัดที่สุดตอนลูกทำกับเรานั่นแหละครับ

ถ้าไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูเขาเราก็โดนทบดอกเบี้ยอีก 

 

• ลูกไม่มีสิทธิ์คาดหวังว่าหน้าตาคุณจะเป็นอย่างไร

แต่เขามีสิทธิ์คาดหวังว่า

หน้าตาคุณอ่อนโยนขนาดไหนในเวลาที่ยื่นหน้าไปหาเขา

  

• ความขัดแย้งระหว่างแม่กับลูก เป็นปัญหาคู่โลก

เป็นความขัดแย้งทางความคิด ไม่ถือว่าบาป

เพียงแต่เราต้องไม่คิดหรือพูดต่อกันด้วยโทสะ หรืออารมณ์โกรธ 

 

สำหรับพ่อแม่ 

หากคุณเลี้ยงลูกในสิ่งที่คุณอยากให้เป็น

คุณจะไม่มีทางได้รู้จักลูก 

หรือตัวตนที่แท้จริงของลูก

 

และสำหรับลูก

เราควรพูดกับพ่อแม่ดีๆ

ให้ท่านเข้าใจในตัวตนของเรา 

จะได้ไม่ต้องเถียงกัน พูดด้วยเหตุด้วยผล

 

• พระพุทธเจ้าตรัสว่า

ทุกคนมีกรรมเป็นแดนเกิดฉะนั้นกรรมจะเป็นผู้รู้

และเข้าใจครับว่าต้องจัดสรรพ่อแม่แบบไหนมาให้เด็ก 

ไม่ใช่เราอยากได้เด็กแบบไหนแล้วจะมีวิธีให้ได้ดังใจ

 

• ทำบุญขอมีลูกที่ดีที่สุด 

ได้ผลที่สุดที่เห็นมาหลายราย

คือทำด้วยการตั้งใจว่า 

ถ้าเทวดาไหนอยากมาต่อบุญ ต่อศีล ต่อภาวนา

เราจะเป็นแดนเกิดให้ 

 

• ไม่มีเด็กคนไหนดื้อ

มีแต่เด็กที่ไม่เข้าใจว่า

ผู้ใหญ่ขอให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ไปทำไม

เพราะผู้ใหญ่ไม่อดทนพอจะอธิบายให้ฉลาดหน่อย 

 

• เด็กจะสนใจทุกคำตอบที่เขาสงสัย

แต่จะเพิกเฉยกับทุกคำสอนที่สร้างความสงสัยว่า ทำไมเขาต้องทนฟัง

 

• การสอน่ที่ล้าสมัยทำให้เด็กจมอยู่กับอดีต 

การสอนที่ล้ำสมัยทำให้เด็กอยาก สร้างอนาคต 

การสอนที่ทันสมัยทำให้เด็กอยู่กับปัจจุบันเป็น 

 

• ทำให้เด็กมีปัญหา แล้วโลกจะมีปัญหากว่านั้น

ทำให้เด็กหมดปัญหา แล้วโลกจะมีคนพยายามทำปัญหาให้หมดไป   

 

ดังตฤณ

http://www.facebook.com  /Du ngtrin


เราในปัจจุบัน พระพุทธะเจ้าเราตรัสรู้แล้ว

จึงบอกบุพกรรมของเปตรนั้นคราวทีเป็นมนุษย์ และเปตรตนนั้นก็ยังไ

Image

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ข่าวสารทางPolice​การกระตุ้นเศรษฐกิจของทุกผู้ประกอบการทุกระดับมีความสำคัญ ตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดเล็กเช่นพ่อค้าที่ปั่นจักรยานขายล็อตเตอรี่ ไปจนถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ♧

โครงการผู้ว่าเปิดแหล่งศึกษา