แค่สำรวมอินทรีย์ทั้ง ๖
แค่สำรวมอินทรีย์ทั้ง ๖
ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย
ต่อสิ่งที่มากระทบ
ทางตา
ทางหู
ทางสมูก
ทางลิ้น
ทางกาย
และทางใจ
ก็เป็นเหตุให้สุจริต๓บริบูรณ์
คือกายวาจาใจ ในขณะนั้น
เมื่อสุจริต๓บริบูรณ์
สติปัฏฐาน๔ก็บริบูรณ์
เมื่อสติปัฏฐาน๔ บริบูรณ์
โพดฌง ๗ ก็ยริบูรณ์
เมื่อโพดฌง ๗ บริบูรณ์
วิชาและวิมุตย่อมปรากฏ
___________
ผู้ได้รับผลแห่งอินทรียสังวร๑
ภิกษุ ท. ! เมื่ออินทรียสังวร มีอยู่ ศีล ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย,
เมื่อศีล มีอยู่ สัมมาสมาธิ ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย,
เมื่อสัมมาสมาธิ มีอยู่ ยถาภูตญาณทัสสนะ ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย,
เมื่อยถาภูตญาณทัสนะ มีอยู่ นิพพิทาวิราคะ ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย,
เมื่อนิพพิทาวิราคะ มีอยู่ วิมุตติญาณทัสสนะ ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย.
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนต้นไม้ เมื่อสมบูรณ์ด้วยกิ่งและใบแล้ว สะเก็ดเปลือกนอก ก็บริบูรณ์ เปลือกชั้นใน ก็บริบูรณ์ กระพี้ ก็บริบูรณ์ แก่นก็บริบูรณ์. ข้อนี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เมื่ออินทรียสังวร มีอยู่ ศีล ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย, เมื่อศีล มีอยู่ สัมมาสมาธิ ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย, เมื่อสัมมาสมาธิมีอยู่ ยถาภูตญาณทัสสนะ ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย, เมื่อยถาภูตญาณทัสสนะ มีอยู่ นิพพิทาวิราคะ ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย, เมื่อนิพพิทาวิราคะ มีอยู่วิมุตติญาณทัสสนะ ก็ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย ; ฉันนั้นเหมือนกัน แล.
๑. บาลี พระพุทธภาษิต ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๐๒/๓๒๑.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น