ครองเรือนเนื้อคู่
พระ: #โอวาส โยมเพื่อน
ถ้าตนเองทำผิด และรู้ว่าตนเองทำผิด แต่ยังไม่เปลี่ยนแก้ให้เป็นไปทางที่ถูก ระวังไปกันบ่อรอด
ส่วนผู้ที่ทำผิด รู้ว่าตนเองกำลังทำผิด แล้วแก้ตัวใหม่ ให้มาในทางถูกต้องดี
อันนี่คือยุ
และถ้าพวกสู๋ เป็นเทวดา
ลูกกะสิออกมาเป็นเทวดา
ถ้าพวกสู๋เป็นหมา
ลูกกะสิออกมาเป็นหมา
ถ้าสู๋ด่ากัน ตีกัน นั่นละหมา เห็นบ่อหมามันตีกันกัดกัน
ลูกกะสิออกมาเป็นหมา ออกมาเป็นหมาแม่ หมาผู้
ใหญ่มามันกะสิกัดพ่อกัดแม่
พลานพ่อพลานแม่ให้ล้มจม
ให้บ่สำบายใจ ทุกข์อันใด๋สิทุกข์ซำเรื่องลูก
ถ้าสู๋บ่อด่ากัน บ่อตีกัน
ซื่อสัตย์ต่อกัน เฮ็ดโตดีๆเป็นตัวอย่างลูก ลูกกะสิออกมาเป็นคนเป็นเทวดาไป
ใหญ่มามันกะสิค้ำพ่อค้ำแม่ ให้ค้ำคูณ
ให้พ่อแม่สำบายใจให้สู๋มีสุขคือยุสวรรค์
เด้อให้เข้าใจ มีหยังกะต้องเว้ากันบอกกัน
มันจะได้ฮู้เรื่องฮู้เหตุ และเกิดความเข้าใจ
เพราะบ่มีญาญทิพย์สิได้ฮู้จิตฮู้ใจของอีกฝ่ายได้ กะเลยต้องถามบอกกัน
คึจัง ผัวเมียคู่หนึ่งไปตลาดนำกัน
ผุผัวชื่อ"นายฉลาด" ผุเมียชื่อ"นาง หน้ามน"
หมู่เมียเป็นผู้ชาย.
เห็นเมียนายฉลาดแล้ว กะเลยยิ้มให้...นางหน้ามน
นางหน้ามน เห็นคนฮู้จักยิ้มให้แล้ว กะเลยยิ้มให้คืนตามภาษามารยาท
ผู้ผัวกะคือนายฉลาด เห็นหมอนั่นยิ้มให้เมีย และเมียกะยิ้มให้หมอนั่น..
กะปรุงแต่งสังขารธรรมารม์ว่า
"โห่.. ยิ้มให้กันจังสิ มันรอบมีกิ๊กกันแล้ว โห.. มันสิสวมเขาให้เฮาตั๊วนิ
มึงละมื้อแลงนิ กุสิเมียนมัน
ให้มันหลาบ เต๋คึกระสอบทรายเบิ่ง"
#นี่คือคิดไปแบบอวิชชา บ่ฮู้จริง
ทั้งๆที่เขาเป็นคนฮู้จักกัน เป็นญาติกัน เป็นต้น
แต่อีกกรณีหนึ่ง เมียเริ่มสิมีชู้อิหลี
ผู้ผัวกะไว้ใจคักไว้ใจแน ปล่อยให้เขาสายสานสัมพันธ์กัน.
ทั้งๆที่เห็นแปลกๆมีพิรุด กะบอ เอ๊ะใจหยัง กอมันสิเป็นจังซั่นกะย้อนมีเหตุ
"นี่ถึงได้บอกว่าให้ถามกัน"
และผุเมียกะคึนางหน้ามล กะบ่อควรสิตามมารยาทคัก.
เห็นนักเลงขี้ยายิ้มให้..
กะยิ้มให้คืน.. พวกนักเลงเขากะสิบ่มักติแบบหนิ
นางหน้ามนหนิ กะเกินไป
แจกยิ้มให้ฮ้อดผู้ที่บ่ควร
อันนี้กะคือเว่านิทานอิ่งธรรมะให้ฟัง
#สาเหตุที่ชื่อ นายฉลาด ก็เพราะว่า ลาวคิดเรื่องใด๋ขึ้นมา ลาวเอาความคิดลาวเมิ๊ด เอาแต่ฮู้เจ้าของ ไปจุลูๆบ่ฟังไผ๋ คือบังไฟนิ อ้างแต่ว่าเจ้าของเป็นผู้นำ กะเลยเอาแต่ความคิดเจ้าของเป็นใหญ่คักโพด บ่อฮู้จักปรึกษาไผ๋
ถ้าแมนเป็นพ่อใหญ่บ้านกะเป็นได้บ่อดน
สาเหตุที่ชื่อ นางหนามน ก็เพราะว่า ลาวคาแต่งแต่หน้า แต่งแต่โต ทาลิฟใส่คิ้ว เบิ่งตีละทาลิฟสติกใส่คิ้วบ้าปานใด๋ จนเลยขอบเขต"ความควร" เลยความควรออกไป กลายเป็นบอควรซ้ำ
เด้อนี่ละนิทานธรรมะ
เป็นโอวาส จากพระหมู่ ถึงโยมสันติ
และอยู่ครองเรือนแล้ว
กะบอแมนว่าอยู่ครองเรือนซือๆ.
กะต้องฮู้จัก(สร้างบุญ
กุศลบารมีทั้ง10ทัศ ตามกำลังเจ้าของ)ให้เจ้าของ เพื่อเป็นเสบียงบุญ
จังสิเวี่ยนว่ายตายเกิด ไปเกิดในภพที่บ่อลำบาก
เพิลว่า ในสังสารวัฏนี้ ถ้าเคยทำบุญร่วมกัน100ครั้ง จังได้พอหน้ากันครั้งหนึ่ง คึจังขี่รถผ่านนำถนน เฮาขี่รถผ่านคนแปลกหน้า อยู่ท้องถนน เห็นหน้าคนแปลกหน้าปุ๊บ นั่นคือเฮาเคยทำบุญนำกันกับเขา 100 ครั้ง ตะหลายภพชาตินับถอยหลังกลับไป
แต่ผู้ที่ได้มาเป็นคู่กันหนิ ต้องเคยทำบุญร่วมกันมายาวนานหลายภพชาติหลายครั้งคัก คักกว่านั้นบักหลายเท่า
บุญหยัง
บุญใน 10 ข้อ นี่หละ
มี 10 ข้อ
ทาน
ศีล
เนกขัมมะ
ปัญญา
วิริยะ
ขันติ
อธิฐานะ
สัจจะ
เมตตา
อุเบกขา
นี่หละให้แบ่งเวลาในชีวิต ออกมาสร้างบารมีนำกัน
ถ้าวาค้าขาย ขายของ
ศีลข้อ อทินนา ลักหรือโกง บ่ควรลักหรือโกงเขา
เด้อ ถ้าเฮ็ดจนชินชนวิบากให้ผล
เป็นไปเพื่อทรัพย์พินาศล่มละลายหมด
และข้อ กาเม ถ้าผิด นี่แฮงตะย้านคัก
ตะสิคืนมาสมบูณร์ทางเพศได้ ใช้เวลาหลายชาติ
และต้องทุกข์เกี่ยวกับเรื่องคู่หลายชาติ จนวิบากคอยจางลง และจนเมิ๊ดกะต้องใช้เวลาเป็นชาติๆ
..
เรื่องศีล #พระก็ได้แต่แนะ แนะแล้วไม่เอา
ก็วางเฉยท๊อนตั่ว..
#สุดท้ายฝากให้เนม ข้อ 1, 3 เด้อ
"คนครองเรือนมีอารมณ์ทุกข์กันถ้วนหน้าเหมือนกันหมด
แต่ที่ไม่เหมือนคือ 1คนอดทนต่ออารมณ์ทุกข์นั่นได้
2คนอดทนต่ออารมณ์ทุกข์ไม่ได้ 3และคนค้นสติปัญญาในการแก้ปัญหาในเรื่องนั้นๆได้ถูกต้อง
4และคนค้นสติปัญญาในการแก้ปัญหาในเรื่องนั้นๆได้ไม่ถูกต้อง"
โยม: ขอบคุณครับสำหรับโอวาส เกี่ยวกับการครองเรือน ขอบคุณจริงๆ
พระ: เรื่องการเว้าพื้นนินทาผู้อื่นคนนอก ในทางบ่อดี ให้ระวัง
บอควรเว้า แมนผู้อื่นสิเว้ากะช่างเขา
ถ้าเป็นเรื่องดีของผู้อื่นเว้าใด้
คนในหมู่บ้านผิดกันย้อนคำเว้าหนิหละ ซังกันย้อนคำเว้าหนิหละ
ความควรเฮ็ด ความควรเว้า ให้ฮู้จัก
ความบ่ควรเฮ็ด ความย่อควรเว้า
ให้ฮู้จัก
เด้อเนม เจริญพร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น